วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อินทนิล - สวรรค์เป็นใจ

การค้นพบยอดเยี่ยมจากเนชั่นเนล จีโอกราฟฟิก!


10) ดาวเคราะห์เหมือนโลกอีกแห่ง
ดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไป 36 ปีแสงนี้อาจจะมีลักษณะใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด   ถ้ามันมีเมฆมากพอนะ   ดาวเคราะห์นี้ถูกตั้งชื่อให้ว่า HD85512b    มันถูกค้นพบในขณะที่โคตรรอบดาวแคระสีส้มให้หมู่ดาววีล่


9) ดาบของหนวดดำยังไม่มีใครรู้ว่าเจ้าดาบนี้เป็นของโจรสลัดในตำนานที่ถูกขนานามว่าหนวดดำหรือเปล่า   แต่อย่างไรก็ตาม   ดาบเล่มนี้ถูกพบท่ามกลางซากปรักหักพังของเรือโจรสลัดขึ้นชื่อในช่วงศตวรรษที่ 18 ชื่อ Queen Anne's Revenge,



8) เมืองมายาที่สูญหาย
ปิรามิดสูง 7 ชั้นที่เคยส่วนหนึ่งของเมืองสูญหายนั้นได้ค้นพบโดยการใช้จีพีเอสและเทคโนโลยี


7) ดาวเคราะห์ระยะเหมาะๆสำหรับชีวิต
ดาวเคราะห์ที่อาจจะเป็นคู่แฝดของโลกอีกด้วงถูกค้นพบในขณะที่โคจรรอบดาวที่เหมือนดวงอาทิตย์ซึ่งอยู่ห่างออกไป 600 ปีแสง   มันถูกตั้งชื่อว่า Kepler-22b


6) ฉลามขาวยักษ์ตัวใหญ่ที่สุดที่เคยถูกจับเจ้าฉลามขาวยักษ์ตัวนี้ถูกจับแถวๆเกาะกวาดาลูเป ประเทศเม็กซิโกในฤดูใบไม้ร่วงปี 2552   มันเป็นตัวผู้ยาว 5.5 เมตร



5) เห็ดราสปีชีส์ใหม่ที่เป็นต้นเหตุของ “มดซอมบี้”
ก้านของเห็ดรา Ophiocordyceps camponoti-balzani นั้นงอกออกมาจากหัวของมดซอมบี้ในป่าฝนของบราซิล   เจ้าเห็ดราสปีชีส์จะไปทำให้มดติดเชื้อและเข้าควบคุมสมอง   หลังจากนั้น   มดโชคร้ายก็จะถูกฆ่าเมื่อมันเดินไปที่เหมาะๆสำหรับการแตกสปอร์ของเห็ดรา



4) จระเข้ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยถูกจับ
เจ้าจระเข้นี้ถูกจับในฟิลิปปินส์เป็นหลังจากการไล่ล่านาน 3 อาทิตย์   มันเป็นจระเข้น้ำเค็มยาว 6.4 เมตรและหนัก 1,075 กก.ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าเป็นเจ้าตัวที่ฆ่าคนตายไป 2 คน   เจ้านี้ถูกตั้งชื่อว่า “โลลอง”    มันถูกเลี้ยงไว้ในสถานที่ชั่วคราวในเมืองบูนาวา




3) ภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาติแยวโลว์สโตนพองตัว
ภูเขาไฟนี้ได้ “หายใจเข้าเฮือกใหญ่” ซึ่งทำให้พื้นที่รัศมีเป็นกิโลๆรอบๆถูกยกขึ้นสูง




2) ฉลาม “ไซคลอป” หายากถูกค้นพบ
ฉลามไซคลอปนี้ถูกค้นพบในเม็กซิโก   มันเป็นลูกอ่อนฉลามยาว 56 ซม.ที่มีตาข้างเดียวกลางหัว



1) เหตุการณ์เครื่องบินตกในแอเรีย 51เครื่องบินสปาย A-12 ทำจากไทเทเนี่ยมนี้คือเครื่องบินสำหรับการทดสอบเรดาร์   เหตุการณ์ของมันถูกปิดมาจนถึงวันนี้ 


วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Geography Matters

Using Field Calculator in ArcMap

วิธีถนอมสายตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์


สำหรับคนที่วันๆ ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆหรือน้องๆที่ต้องทำการบ้านหรือเล่นเกมส์โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆคงต้องเกิดอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า หรืออาการทางสายตาอื่นๆ กันบ้าง  

ปัจจุบันอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น จากสถิติพบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศรีษะ  ปวดเหมื่อยคอและหลัง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน  ชนิดของจอคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่ง ก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำร้ายสายตาของเราค่ะ 


วิธีการป้องกันอาการที่กล่าวมาข้างต้น มีวิธีการแก้ไขดังต่อไปนี้ค่ะ ลองไปอ่านกันดูนะคะ 
 
1. กระพริบตาให้ถี่ขึ้น
แก้ไขอาการตาแก้ง  อาการตาแห้ง เกิดจากการที่เรากระพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20 - 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 - 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ควรจะกระพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น



2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ให้บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 - 70 ซ.ม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป



3. ปรับความสว่างของห้อง 
ควรปิดไฟบางดวงที่ทำการรบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่าง ควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้าน ที่สะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า



4. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่
เวลาพิมพ์งาน ควรเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษรได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน หรือเลือกใช้จอคอมพวิเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอนสายตาได้ดีกว่าจอแบบเก่า (CRT)


5. เลือกใช้แว่นที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์
ควรเลือกใช้เลนส์สีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 - 70 ซ.ม. (ระยะกลาง) ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าวจะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือ หรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป


6. พักสายตา ทุกๆ ชั่วโมง 
ควรเปลี่ยนอริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

อยากให้ทุกคนให้มาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้นนะคะ  เครื่องอำนวยความสะดวกอย่างคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ แต่ถ้าเราใช้ไม่ถูกวิธีก็เกิดโทษได้เหมือนกันค่ะ ด้วยรักและความปรารถนาดี อยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีนะคะ 

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ละติจูด ลองจิจูด ลิปดา ฟิลิปดา

เคยงงกับคำพวกนี้บ้างไหม??

ในยุคปัจจุบันที่ GPS เป็นที่นิยม ระบบนำทางในรถยนต์มีแทบจะทุกคัน ทำให้เราเริ่มได้ยินและได้เห็นการบอกตำแหน่งในลักษณะนี้กันบ่อยขึ้น เจ้า "เส้นรุ้ง" กับ "เส้นแวง" ที่เราท่องมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ตอนนั้นยังแปลกใจ ท่องไปทำไม เอาเข้าจริงมายุคนี้ ต้องยอมรับว่า แค่เขียน ละติจูด กับ ลองจิจูด เรายังเขียนผิดกันเลย ตอนแรกเข้าใจว่า เส้นรุ้ง กับ เส้นแวง เขียนเหมือนกันเปลี่ยนแต่ตัวหน้าคือ ละ กับ ลอง ที่ไหนได้ เขียนไม่เหมือนกันเลย ถ้าเส้นรุ้ง ต้องเป็น "ละติจูด" ส่วนเส้นแวง ต้องเป็น "ลองจิจูด"  วันนี้เลยพาไปทำความรู้จักกับ คำศัพท์เกี่ยวกับการบอกตำแหน่งโดยใช้ เจ้า เส้นรุ้ง กับ เส้นแวง เสียเลย



“เส้นรุ้ง” กับ “เส้นแวง” เป็นคำที่หลายๆ ท่านเคยเรียนในสมัยอยู่โรงเรียน ท่องคำว่า “รุ้งตะแคง แวงตั้ง” และความหมายที่ตรงกันคือ เส้นรุ้งคือละติจูด และ เส้นแวงคือลองจิจูด 
  
ราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติศัพท์และให้รายละเอียดของ ละติจูด ลองจิจูด ไว้ในพจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ไว้ดังนี้
ละติจูด (Latitude) เป็นระยะทางเชิงมุมที่วัดไปตามขอบเมริเดียนซึ่งผ่านตำบลที่ตรวจ โดยนับ 0 (ศูนย์) องศา จากเส้นศูนย์สูตรไปทางเหนือหรือใต้ จนถึง 90 องศาที่ขั้วโลกทั้งสอง หรือเป็นมุมแนวตั้งที่ศูนย์กลางโลกระหว่างเส้นรัศมีของโลกที่ผ่านจุดซึ่ง เส้นเมริเดียนตัดเส้นศูนย์สูตรกับเส้นรัศมีที่ผ่านตำบลที่ตรวจ

ลองจิจูด (Longitude) เป็นระยะทางเชิงมุมระหว่างเมริเดียนกรีนิช กับเมริเดียนซึ่งผ่านตำบลที่ตรวจซึ่งวัดไปตามขอบของเส้นศูนย์สูตร หรือขอบของเส้นขนานละติจูด หรือเป็นมุมแนวระดับที่แกนโลกในระหว่างพื้นของเมริเดียนกรนิชกับพื้นของเมริ เดียนซึ่งผ่านตำบลที่ตรวจ ตามปรกติวัดเป็น องศา ลิปดา และ ฟิลิปดา โดยนับ 0 (ศูนย์) องศาจากเมริเดียนกรนิชจนถึง 180 องศาไปทางตะวันออกหรือตะวันตกของเมริเดียนกรีนิช


เส้นเมริเดียน และเมริเดียนกรีนิช มีความหมายว่า

เส้นเมริเดียน (meridian) คือ ขอบของครึ่งวงกลมใหญ่ที่ผ่านขั้วเหนือ และขั้วใต้ของโลก ใช้เป็นเครื่องกำหนดแนวเหนือ-ใต้ของโลก ซึ่งเรียกว่าเหนือจริง ใต้จริง หรือเหนือภูมิศาสตร์ ใต้ภูมิศาสตร์ ตำแหน่งเส้นเมริเดียนบนผิวโลกแต่ละเส้นกำหนดได้ด้วยค่าลองจิจูดของเมริเดียน นั้น

เมริเดียนกรีนิช (Greenwich meridian)
 คือเส้นเมริเดียนที่ผ่านหอดูดาว ณ ตำบลกรีนิช กรุงลอนดอน อังกฤษ ใช้เป็นศูนย์ในการกำหนดค่าต่อไปนี้ 

1) พิกัดภูมิศาสตร์ เป็นจุดตั้งต้นของค่าลองจิจูด ซึ่งใช้ประกอบกับค่าละติจูดในการกำหนดตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ บนพื้นผิวโลก โดยเมริเดียนกรีนิชนี้จะมีค่าลองจิจูด 0 (ศูนย์) องศา  

2) เวลามาตรฐานสากล เวลาของท้องถิ่นที่อยู่ห่างจากเมริเดียนกรีนิชไปทางตะวันออก 1 องศา จะเร็วกว่าเวลาที่กรีนิช 4 นาที แต่ถ้าอยู่ห่างไปทางตะวันตก 1 องศา จะช้ากว่าเวลาที่กรีนิช 4 นาที
ลิปดา (minute of arc, arcminute หรือ MOA) เป็นหน่วยหนึ่งในการวัดมุม มีค่าเท่ากับหนึ่งในหกสิบส่วน (1/60) ของหนึ่งองศา 

โดยที่หนึ่งองศาเท่ากับหนึ่งในสามร้อยหกสิบส่วน (1/360) ของวงกลม ดังนั้น 1 ลิปดาจึงเท่ากับ 1/21600 ส่วนในวงกลม หรือประมาณ 0.0167 องศา หน่วยวัดขนาดเล็กเช่นนี้มักใช้ในการวัดค่าที่ละเอียดมากๆ เช่นในวิชาดาราศาสตร์หรือการกำหนดพิกัดการยิงอาวุธ

พิลิปดา (second of arc, arcsecond) (บ้างก็ว่า วิลิปดา) เป็นหน่วยที่มีขนาดเป็นหนึ่งในหกสิบส่วน (1/60) ของหนึ่งลิปดาอีกต่อหนึ่ง

ลิปดาและพิลิปดาเป็นคำไทย การเขียน "ฟิลิปดา" ไม่ถูกต้องและมาจากความเข้าใจที่ผิดว่าคำนี้มาจากภาษาต่างประเทศ

รู้ไหมว่า...มีอยู่ 2 ประเทศ ไม่สามารถใช้ชื่อ Gmail ได้

นักท่องเน็ทส่วนใหญ่ต้องมี อีเมล (Email) อย่างน้อย คนละ 2 ชื่อ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน อีเมลยอดนิยมส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น Hotmail Yahoo และ Gmail
 
Gmail คือ บริการฟรีอีเมล ที่จัดทำขึ้นโดย Google เปิดตัวให้ทดลองใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 ในตอนนั้น Gmail ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ผู้ที่ต้องการใช้งานจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการเชิญ (invite) เท่านั้น แต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทาง Google ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถใช้งาน Gmail โดยสมัครผ่านทางหน้าเว็บ www.gmail.com ได้เลย ถือว่าเป็นการเปิดศึกของการให้บริการ ฟรีอีเมล ที่น่าจับตามอง
 
Gmail ได้เปรียบผู้ให้บริการฟรีอีเมลทั่วไปในเรื่องของพื้นที่การเก็บอีเมล ในขณะที่ทาง Hotmail และ Yahoo ให้พื้นที่ใช้งานอยู่ที่ 1 GB แต่ของ Gmail กลับให้พื้นที่การใช้งานมากกว่าโดยอยู่ที่ 2.8 GB เทียบเท่ากับหน้าเว็บเพจถึง 1.4 ล้านหน้า !!!  

จุดเด่นโดนใจนอกเหนือจากพื้นที่การใช้งาน ที่ให้เยอะจนสามารถเก็บอีเมลไว้อย่างจุใจแล้ว Gmail ยังสามารถเช็คอีเมลเข้าใหม่ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ของ Firefox ได้เลย นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการต่าง ๆ ของ Google อย่างเช่น บริการ iGoogle เสริชเอ็นจิ้น แบบใหม่ที่สามารถจัดรูปแบบ การใช้งานตามสไตล์ของผู้ใช้ เพียงแค่มีอีเมลของ Gmail เพื่อใช้ในการเข้าระบบ เป็นต้น
   
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า...มีเพียงประเทศ เยอรมัน และ ประเทศ อังกฤษ เท่านั้น ที่ทาง Google ต้องเปลี่ยนจาก Gmail เป็น Google Mail เนื่องจากชื่อ Gmail ซ้ำกับชื่อผู้ให้บริการอื่นที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้กลายเป็นเพียง 2 ประเทศในโลก ที่ใช้ @googlemail.com


ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia และ น.ส.พ.ผู้จัดการ

ที่มา  :  http://oxygen.readyplanet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=413592&Ntype=15

ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C

แป้นพิมพ์, คอมพิวเตอร์

รู้หรือป่าว !! ทำไม ตัวอักษรในแป้นพิมพ์ทั้งของเครื่องพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์ ถึงไม่เรียงกันตามลำดับอักษรเช่น A B C 


สำหรับการเรียงอักษรบนแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเรียง ที่เรียกว่า QWERTY (คิวเวอร์ตี้) ที่ เรียกกันอย่างนี้เพราะเป็นการนำอักษร 6 ตัวแรก(เมื่อนับจากซ้ายมาขวา) ของแป้นพิมพ์ที่เป็นตัวอักษรแถวบนมาต่อกัน และถ้าหากจะถามว่าทำไมถึงต้องเรียงแบบนี้ เราคงต้องย้อนกลับไปในอดีตกันซะหน่อย

การเรียงลำดับ อักษรของแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้น มีที่มาจากข้อจำกัดที่เกิดกับเครื่องพิมพ์ดีดในยุคแรกๆ ที่ยังจัดแป้นพิมพ์แบบเรียงตามลำดับตัวอักษรคือ เมื่อคนที่พิมพ์ดีดได้คล่องและเร็วมาพิมพ์จะทำให้ก้านพิมพ์ดีดขัดกันอยู่ เสมอ ต่อมา คริสโตเฟอร์ ลาแธม โชลส์ วิศวกรเครื่องกลชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดสมัยใหม่รายแรกและได้รับสิทธิบัตรในปี 1868 จึงทำการเรียงลำดับตัวอักษรเสียใหม่ด้วยการแยกตัวอักษรที่มักใช้มาผสมเป็นคำ ร่วมกันบ่อยๆ ออกไปอยู่กันคนละฝั่งของแป้นพิมพ์ เพื่อทำให้นักพิมพ์ดีดพิมพ์ได้ช้าลงกว่าเดิม จะได้ไม่เกิดปัญหาก้านพิมพ์ขัดกันอีก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกผู้คนยังคงไม่นิยมเครื่องพิมพ์ดีดของเขามากนัก ทำให้โชลส์ตัดสินใจขายสิทธิบัตรดังกล่าวให้กับทางบริษัท เรมิงตันอาร์มคอมพานี ในปี 1973 ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่ทางเรมิงตันผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาจำหน่าย ความนิยมในตัวเครื่องพิมพ์ดีดกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ใน เวลาต่อมา ปรากฏว่ามีผู้พยายามจัดเรียงตัวอักษรบนแป้นพิมพ์เป็นแบบต่างๆ ซึ่งแบบที่ได้รับความนิยมมากหน่อยก็อย่างเช่น แบบ DVORAK ซึ่ง เคยมีการบอกกล่าวกันว่าการเรียงในรูปแบบนี้จะทำให้พิมพ์เร็วขึ้น จนทางห้างร้านบริษัทหลายแห่งเริ่มนิยมกันอยู่พักหนึ่ง แต่ว่าในปี 1956 ทาง General Services Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่หน่วยงานอื่นๆของรัฐ ได้ทำการศึกษาการจัดแป้นพิมพ์ทั้ง 2 แบบ และก็พบว่า การจัดแบบ QWERTY นั้น ทำให้พิมพ์ได้เร็วเท่ากับหรือมากกว่าแบบ DVORAK ทำให้ความนิยมของการจัดแป้นพิมพ์แบบ DVORAK ลดลงไป

ทั้ง นี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ปัจจุบันเราก็ไม่ได้นิยมใช้พิมพ์ดีดแบบเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องก้านพิมพ์ขัดกันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อไป แล้วทำไมเราจึงไม่เปลี่ยนกลับไปใช้แป้นพิมพ์แบบเรียงตามตัวอักษรเหมือนก่อน ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้หลายคนคงพอเดากันได้ว่าเป็นเพราะ เราคุ้นเคยและเคยชินกับแบบ QWERTY จนไม่อยากจะกลับไปเสียเวลาเริ่มนับหนึ่งกับแบบเดิมเสียแล้ว


ที่มา.http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_05879.php

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ


จากวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ใครที่พลาดกับการชมดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ อยากบอกว่า
น่าเสียดายมากๆ เพราะเราต้องรอถึง105ปีเลยทีเดียว ถ้าเรายังอยู่คงจะคลานไปดู  หรือเกิดใหม่กลายเป็นด้วงเป็นหนอนดูแล้วคงจะไม่ได้อรรถรส ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ได้ดูจึงจะภาพที่น่าประทับใจนี้มาฝากกันจ้า

นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ

นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ


 นาซ่า เผยภาพ ความสวยงามจากปรากฎการณ์ดาวศุกร์โคจรผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ที่บันทึกได้จากยานอวกาศ SDO ซึ่งภาพมีความละเอียดชัดเป็นอย่างมาก


นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ
นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ

  โดยภาพชัด ๆ ของปรากฎการณ์ดังกล่าว เป็นภาพที่ยานอวกาศ SDO หรือ Solar Dynamics Observatory ได้บันทึกไว้ตลอดช่วงกว่า 6 ชั่วโมงที่ดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ ในวันที่ 5-6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นภาพที่ถูกบันทึกอย่างคมชัด ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งมีตั้งแต่ภาพบันทึกความยาวคลื่นของแสงอัลตราไวโอเล็ต และ แบบสเป็กทรั่ม ที่ทำให้เห็นดวงอาทิตย์ในสีต่าง ๆ เช่น สีแดง , ทอง , สีแดงม่วง และ สีส้ม แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดบรรยากาศรอบดวงอาทิตย์และดาวศุกร์อย่างชัดเจน

นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ
นาซ่าเผยคลิปดาวศุกร์โคจรผ่านดวงอาทิตย์ แบบชัด ๆ

สำหรับยานอวกาศ SDO ถือว่าเป็นยานอวกาศที่ล้ำสมัยที่สุดที่นาซ่าใช้ในการศึกษาดวงอาทิตย์ ซึ่งนาซ่าได้ปล่อยยานดังกล่าวขึ้นอยู่ห้วงอวกาศเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2010 โดยมีการติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ ที่สามารถส่งภาพดวงอาทิตย์ที่มีความละเอียดสูง หรือ ไฮ-เดฟ มายังโลกได้ เพื่อเป็นเครื่องมือให้นักวิทยาศาสตร์นาซ่าใช้ในการศึกษาดวงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้น และในตลอดระยะเวลา 5 ปีของยานอวกาศลำนี้จะทำภารกิจสำรวจชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กและทำความเข้าใจบทบาทของดวงอาทิตย์ที่มีต่อสภาวะอากาศและเคมีธาตุเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศของโลกได้





ขอขอบคุณ  ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก  Youtube.com โพสต์โดยคุณ NASAexplorer